ไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯได้ประกาศแบน 9 บริษัทจีน ซึ่งรวมบริษัทXiaomiก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หลังจากนั้นไม่นาน ราคาหุ้นของXiaomiกรุ๊ป(1810.HK)เริ่มสั่นสะเทือน ราคาปิดที่29.3 ดอลลาร์ฮ่องกง ดิ่ง10.26% ตลอดทั้งวัน
.
เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว Xiaomi ได้แถลงว่า “ทางบริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตามกฎหมายและกฎระเบียบ อีกทั้งยังเคารพกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของพื้นที่ในการประกอบธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ใช้เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับบุคคลและเชิงพาณิชย์ ทางบริษัทยืนยันว่ากองทัพจีนไม่มีส่วนเป็นเจ้าของควบคุมหรือเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นบริษัทของกองทัพจีนตามที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมาย NDAA ของสหรัฐฯ” ซึ่งหลังจากนั้น ทางXiaomiก็ได้โพสต์ข้อความในเวยป๋อว่า ขณะนี้Xiaomiดำเนินกิจการปกติ
.
สิ่งที่น่าสังเกต คือการแบน Xiaomi ในครั้งนี้ ไม่เหมือนกับการที่ Huawei ถูกเข้าบัญชีดำ “Entity List” ของสหรัฐฯ โดยบริษัทในสหรัฐอเมริกาจะถูกห้ามไม่ให้ลงทุนใน 9 บริษัท ที่รวมถึง Xiaomi แต่ซัพพลายเออร์อเมริกันที่จัดหาชิปให้ Xiaomi เช่น Qualcomm จะไม่ถูกจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นข้อจำกัดการลงทุนจะไม่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Xiaomi
อย่างไรก็ตาม Xiaomiถูกจับตามองโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในฐานะบริษัทที่ติดอันดับ500บริษัทใหญ่ทั่วโลก เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และอิทธิพลของแบรนด์ของ Xiaomi ได้ก่อให้เกิดอิทธิพลไปแล้วทั่วโลก
.
ในความเป็นจริง Xiaomi กำลังอยู่ในช่วงสูงสุดของการพัฒนา ตามสถิติที่เปิดเผยโดยสถาบันวิจัยตลาดสองแห่งอย่าง IDC และ Canalys ได้เปิดแผยว่า การจัดส่งโทรศัพท์มือถือของ Xiaomi แซงหน้า Apple ในไตรมาสที่3 ของปี 2020 โดยอยู่ในอันดับ3 ในบรรดาแบรนด์โทรศัพท์มือถือทั้งหมด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Xiaomi ยังคงให้ความสำคัญกับโทรศัพท์เรือธงระดับไฮเอนด์ซึ่งก็มีผลลัพธ์ก็น่าประทับใจ ข้อมูลการขายล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Mi 11 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้วติดอันดับ1ในตลาด มือถือAndroid ที่ราคาสูงกว่า 4,000 หยวน เมื่อสองปีก่อน Xiaomi ได้IPOอย่างเป็นทางการในฮ่องกงด้วยราคาขายที่ 17 ดอลลาร์ฮ่องกง Lei Jun กล่าวในงานเลี้ยงฉลองว่า จะต้องทำให้ราคาหุ้นของนักลงทุนที่ซื้อหุ้นในวันแรกของการIPOเพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งในช่วงต้นปีนี้ คำพูดของ Lei Jun ได้เกิดขึ้นจริง ราคาหุ้นของ Xiaomi ขึ้นไปที่ 35.9 ดอลลาร์ฮ่องกง
.
เมื่อดูจากผลประกอบการที่ผ่านมา Xiaomi ยังคงอยู่ในช่วงที่เติบโตไม่หยุด รายงานทางการเงินเปิดเผยว่าในสามไตรมาสแรกของปี 2020 Xiaomi มีรายได้ 175,400 ล้าน โต 17.4% เมื่อเทียบกับปี2019ในช่วงเวลาเดียวกัน กำไรสุทธิ 9.8 พันล้านเพิ่มขึ้น 6.7% จากปี2019 เมื่อดูจากไตรมาสที่สามเพียงอย่างเดียว Xiaomi มีรายได้ 72,200 ล้านหยวน โต34.5% กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.9% เมื่อเทียบกับปี2019ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลการดำเนินกิจการโดยรวมเกินความคาดหมายของตลาดมาก รายได้และกำไรสุทธิและดัชนีอีกมากกว่า15ตัวที่ทำสถิติสูงสุดในไตรมาสเดียว
.
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ แม้ว่าวันนี้Xiaomiจะร่วงหนัก แต่ก็มีการซื้อกองทุนจำนวนในประเทศจีนซึ่งมีส่วนช่วยราคาหุ้นของXiaomiอบ่างมาก แสดงให้เห็นถึงสถาบันการลงทุนยังคงมองXiaomiในแง่ดีอยู่
Guotai Junan Securities หนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของ Xiaomi ผันผวนในระยะสั้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ไตรมาสที่ส่ามของปีที่ผ่านมาของ Xiaomi เด่นสุดในตลาด หลักๆก็เป็นผลมาจากรูปแบบกระแสหลักของผลิตภัณฑ์ ชื่อเสียงของแบรนด์และช่องทางออฟไลน์มีผลลัพท์ที่น่าพึงพอใจ กำลังการผลิตของ Xiaomi ในอินเดียฟื้นตัว 85% จากระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
Guotai Junan Securities คาดว่าในปี 2021 Xiaomiจะได้รับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น รักษาสถานะในตลาดสมาร์ทโฟนระดับล่างและระดับกลาง ขยายส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ คาดว่าการจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Xiaomi ในปี 2021 จะเติบโตอย่างรวดเร็ว